Whistleblower (วิสเซิลโบลเวอร์) ผู้แจ้งเบาะแส! เป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกผู้รายงานข้อมูลหรือเหตุการณ์ที่ผิดปกติ
โดยปกติแล้วเป็นการรายงานข้อมูลที่เป็นความจริงหรือข้อกังวลเกี่ยวกับความผิดปกติหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องภายในบริษัท องค์กรหรือองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผู้รายงานจะพยายามเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้เพื่อให้สาธารณชน บริษัท หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อให้มีการแก้ไขหรือดำเนินการตามกฎหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องในกรณีที่เกิดปัญหาหรือความผิดปกติในองค์กรนั้น ๆ
หรือกล่าวได้ว่า Whistleblower หรือผู้เป่านกหวีด หรือ ผู้แจ้งเบาะแส หมายถึง บุคคลหรือบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารที่มีความลับหรือมีความเป็นความลับเกี่ยวกับความผิดปกติหรือความไม่ถูกต้องภายในบริษัท องค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมาย การรวมกลุ่มหรือเกิดความเสี่ยงต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ความเสียหายทางการเงิน หรือการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นต้น
ดังนั้น การเป็น whistleblower สามารถมีผลกระทบต่อการดำเนินงานและภาพลักษณ์ของบริษัท องค์กรหรือหน่วยงานนั้น ๆ และบางครั้งอาจเป็นการเริ่มกระบวนการสืบสวนเพื่อตรวจสอบความเป็นจริงของข้อมูลที่ถูกเปิดเผยด้วยก็ได้ ที่สำคัญ การเป็น whistleblower อาจมีความเสี่ยงสูงต่อชีวิตความปลอดภัย และอาชีพของผู้รายงาน หรือผู้แจ้งเบาะแส เนื่องจากอาจทำให้เกิดการละเมิดทางกฎหมาย หรือการก่อกวนภายในองค์กรได้ ดังนั้น กลไกสำคัญของการจัดทำระบบ whistleblower จึงมักกำหนดให้มีการปกป้อง หรือป้องกันสำหรับผู้รายงานข้อมูลที่เป็น whistleblower เพื่อปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของพวกเขาไว้จากการลงโทษหรือการละเมิดทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดเผยข้อมูล
สำหรับบริษัทที่ต้องการจัดทำระบบ Whistleblower ต้องวางกรอบแนวทางการจัดทำแบ่งเป็นหัวข้อหลักๆ ได้ดังนี้
- การรับรู้ปัญหาหรือข้อมูลที่สำคัญที่ได้รับการแจ้งเบาะแส: การกำหนดบุคคลภายในบริษัท หรือบุคคลที่มีส่วนได้เสียกับองค์กรหรือหน่วยงานจะรับรู้ปัญหาหรือข้อมูลที่เป็นความลับหรือมีความผิดปกติ เช่น การกระทำผิดกฎหมาย การละเมิดจรรยาบรรณ หรือการทุจริตในการดำเนินงานของบริษัท
- การตรวจสอบข้อมูล: บุคคลากร หรือพนักงานที่ได้รับมอบหมายในการรับเรื่องร้องเรียน หรือปัญหาต่างๆ จะต้องตรวจสอบข้อมูลให้มั่นใจว่ามีข้อเท็จจริงและเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญในการพิจารณาถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
- กระบวนการตัดสินใจดำเนินการ: ในขั้นตอนนี้ บุคคลากร หรือพนักงานที่ได้รับมอบหมายควรพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดเผยข้อมูล เช่น ผลกระทบต่อบริษัท องค์กร หรือหน่วยงาน การสูญเสียงาน การรับมือกับความกังวล และความเสี่ยงต่อความปลอดภัยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
- กระบวนการเลือกช่องทางเปิดเผย: บุคคลากร หรือพนักงานที่ได้รับมอบหมายควรจะพิจารณาช่องทางการเปิดเผยข้อมูลอย่างเหมาะสม เช่น การแจ้งผู้บริหารภายในองค์กรเฉพาะที่เกี่ยวข้องเท่านั้น การรายงานข้อมูลดังกล่าวจะต้องรายงานให้กับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นต้น
- การดำเนินการตามข้อกล่าวหา หรือข้อร้องเรียน: หากมีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำผิดปกติ การทำทุจริต หรือความผิดกฎหมาย บริษัท องค์กรหรือหน่วยงานจะต้องดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบความเป็นจริงของข้อมูลที่ถูกเปิดเผย
- กระบวนการในการปกป้อง whistleblower: whistleblower หรือผู้แจ้งเบาะแสอาจได้รับการปกป้องจากการละเมิดหรือการล่วงละเมิดจากบริษัท องค์กรหรือบุคคลที่ถูกเปิดเผยข้อมูลความผิด
- การสืบสวนและการกระทำตามกฎหมาย: หากเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย อาจมีการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอาจนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายตามลำดับ
ดังนั้น การเป็น whistleblower เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและอาจมีผลกระทบต่อทั้งบุคคลเองและองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ความระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลและการดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การเป็น whistleblower เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด
การกำหนดกระบวนการ whistleblower หรือช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน หรือการแจ้งเบาะแสต่างๆ เป็นระบบการควบคุมภายในที่สำคัญอย่างหนึ่งภายในองค์กร ซึ่งบริษัทที่ต้องการทำระบบ whistleblower ควรกำหนดนโยบาย และแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อความชัดเจนในการดำเนินการ ทั้งนี้ whistleblower เป็นกระบวนการสำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการทำ IPO ที่จะต้องจัดทำขึ้นอย่างเป็นระบบ ซึ่งการจัดทำนโยบายช่องทางการแจ้งเบาะแส หรือ whistleblower นั้น เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องถูกประเมินตามกรอบหรือแนวทางการควบคุมภายในของ COSO ทั้งในส่วนของการควบคุมภายในองค์กร หรือ Control Environment และองค์ประกอบเรื่องของข้อมูลและการสื่อสาร หรือ Information and Communication